มาดู AI Google Bard ตอบคำถาม เกี่ยวกับ AI และ RPA

บทความนี้ ตอบโดย AI Bard ของ Google https://bard.google.com เกี่ยวกับเรื่อง AI และ RPA เกี่ยวกับ การทำงานร่วมกัน

ผู้ถาม: การทำงานร่วมกันระหว่าง AI และ RPA จะเป็นอย่างอย่างไร
Bard: AI และ RPA ทำงานร่วมกันโดยการรวมจุดแข็งของแต่ละเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน AI สามารถใช้เพื่อทำให้งานที่ยากหรือเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เช่น งานที่ต้องใช้ความเข้าใจภาษาธรรมชาติ หรือการตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์หรือคลุมเครือ RPA สามารถใช้เพื่อทำงานอัตโนมัติที่ซ้ำซาก ตามกฎ และใช้เวลานาน เช่น งานที่เกี่ยวข้องกับการโต้ตอบกับระบบคอมพิวเตอร์หรือการป้อนข้อมูลลงในแบบฟอร์ม
(ถ้าให้เข้าใจ AI เปรียบเสมือนสมองที่เก่งที่สุด ตอบคำถาม หรือหา Solution วิธีแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง ส่วน RPA เปรียบเสมือน แขนขา ที่รับ ความคิดที่ AI สั่งมาเพื่อไปทำให้เกิดผล)

ต่อไปนี้คือตัวอย่างเฉพาะบางประการของการทำงานร่วมกันของ AI และ RPA:

- สามารถใช้ AI เพื่อดึงข้อมูลจากเอกสาร ในขณะที่ RPA สามารถใช้เพื่อทำให้กระบวนการป้อนข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบโดยอัตโนมัติ
- สามารถใช้ AI เพื่อระบุและจัดประเภทข้อซักถามของลูกค้า ในขณะที่ RPA สามารถใช้เพื่อทำให้กระบวนการตอบกลับข้อซักถามเหล่านั้นเป็นไปโดยอัตโนมัติ
- สามารถใช้ AI เพื่อตรวจจับการฉ้อโกง ในขณะที่ RPA สามารถใช้เพื่อทำให้กระบวนการตรวจสอบและแก้ไขกรณีการฉ้อโกงเป็นไปโดยอัตโนมัติ
ด้วยการรวมจุดแข็งของ AI และ RPA ธุรกิจต่างๆ จึงสามารถทำงานที่หลากหลายขึ้นโดยอัตโนมัติและปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผล

นี่คือประโยชน์บางประการของการใช้ AI และ RPA ร่วมกัน:

1. ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น: AI และ RPA สามารถช่วยทำให้งานที่ต้องดำเนินการด้วยตนเองในปัจจุบันเป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งทำให้พนักงานมีเวลาไปโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น
2. ปรับปรุงความแม่นยำ: AI สามารถช่วยปรับปรุงความแม่นยำของงานโดยการระบุและแก้ไขข้อผิดพลาด
3. ต้นทุนที่ลดลง: AI และ RPA สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้โดยการทำให้งานเป็นอัตโนมัติซึ่งไม่จำเป็นต้องมีการแทรกแซงของมนุษย์
4. การปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้รับการปรับปรุง: AI และ RPA สามารถช่วยปรับปรุงการปฏิบัติตามข้อบังคับโดยทำให้มั่นใจได้ว่างานต่างๆ
การผสมผสานระหว่าง AI และ RPA คือ ความทรงพลังสำหรับระบบอัตโนมัติ ในขณะที่เทคโนโลยีเหล่านี้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราคาดหวังได้ว่าจะเห็นวิธีการที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการทำให้งานเป็นอัตโนมัติและปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ

ความต้องการนักพัฒนาที่มีทักษะด้าน AI และ RPA กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้ได้รับการนำไปใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ จึงต้องการบุคลากรจำนวนมากขึ้นที่สามารถพัฒนาและนำโซลูชัน AI และ RPA ไปใช้ได้ หากคุณสนใจอาชีพด้าน AI หรือ RPA ตอนนี้เป็นเวลาที่จะเริ่มเรียนรู้ทักษะที่คุณต้องการ

ผู้ถาม: อนาคต ของ AI และ RPA จะเป็นอย่างไร

อนาคตของ AI และ RPA นั้นสดใสมาก ในขณะที่เทคโนโลยีเหล่านี้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราคาดหวังได้ว่าจะเห็นวิธีการที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการทำให้งานเป็นอัตโนมัติและปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ

ต่อไปนี้เป็นวิธีที่ AI และ RPA มีแนวโน้มที่จะใช้ในอนาคต:

1. บอท RPA ที่ขับเคลื่อนด้วย AI: AI จะถูกใช้เพื่อสร้างบอท RPA ที่ชาญฉลาดมากขึ้น ซึ่งสามารถเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้ บอทเหล่านี้จะสามารถทำงานที่หลากหลายได้โดยอัตโนมัติ และพวกมันจะสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. AI ที่เปิดใช้งาน RPA: RPA จะถูกใช้เพื่อให้ AI สามารถโต้ตอบกับโลกแห่งความจริงได้ สิ่งนี้จะช่วยให้ AI สามารถเข้าถึงและประมวลผลข้อมูลจากระบบทางกายภาพ เช่น เซ็นเซอร์และเครื่องจักร สิ่งนี้จะทำให้ AI มีประสิทธิภาพและหลากหลายยิ่งขึ้น และจะเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI
3. AI และ RPA ที่ทำงานร่วมกัน: AI และ RPA จะถูกใช้เพื่อสร้างระบบการทำงานร่วมกันที่สามารถทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ระบบเหล่านี้จะสามารถเรียนรู้จากกันและกัน และจะสามารถแบ่งปันข้อมูลและทรัพยากรได้ สิ่งนี้จะทำให้สามารถทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นโดยอัตโนมัติ และจะนำไปสู่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในระดับใหม่

การผสมผสานระหว่าง AI และ RPA มีศักยภาพในการปฏิวัติวิธีการทำงานของเรา เทคโนโลยีเหล่านี้มีพลังในการทำให้งานที่มนุษย์ทำอยู่เป็นไปโดยอัตโนมัติ และช่วยให้พนักงานมีเวลาไปโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์และสร้างสรรค์มากขึ้น ในขณะที่เทคโนโลยีเหล่านี้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราคาดหวังได้ว่าจะได้เห็นวิธีการใหม่ๆ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อทำให้งานเป็นไปโดยอัตโนมัติและปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ

ต่อไปนี้คือตัวอย่างเฉพาะบางประการเกี่ยวกับการใช้ AI และ RPA ในอนาคต:

1. สามารถใช้บอท RPA ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อทำให้งานบริการลูกค้าเป็นแบบอัตโนมัติ เช่น ตอบคำถาม แก้ไขปัญหา และให้การสนับสนุน
2. AI ที่เปิดใช้งาน RPA สามารถใช้เพื่อตรวจสอบและควบคุมระบบทางกายภาพ เช่น โรงงานผลิตและโครงข่ายไฟฟ้า
3. ระบบ AI และ RPA ที่ทำงานร่วมกันสามารถใช้เพื่อทำงานที่ซับซ้อนโดยอัตโนมัติ เช่น การซื้อขายทางการเงินและการวินิจฉัยทางการแพทย์

ความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่จะคิดว่า AI และ RPA จะถูกนำมาใช้เพื่อกำหนดอนาคตของการทำงานอย่างไม่รู้จบ