ระบบ Diskless (No Harddisk System)

              ระบบ Diskless หรือจะเรียกอย่างถูกค้องคือระบบ ISCSI ที่ย่อมาจาก " Internet Small Computer Interface " ซึ่งเป็นมาตราฐานในการเก็บข้อมูลชนิดใหม่ที่พัฒนาโดย IEFT "Internet Engineering Task Foce" และ Microsoft โดย ISCI เป็นมาตราฐานที่จะเข้ามาช่วยให้องค์กรสามารถจัดเก็บ และเรียกใช้งานจัดการข้อมูลได้ จากระยะไกล โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงสถานที่ เป็นการรับ - ส่งข้อมูล ข้ามเครือข่ายด้วยความเร็วสูง โดย ISCI จะอณุญาติให้ส่งคำสั่ง (SCSI Command) ซึ่งถูกห่อหุ้มไว้ ผ่านแพ็กเกจ TCP/IP ซึ่งเป็นโปรโตคอลหลักของระบบ Network ที่ใช้การอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นลักษณะการทำงานของ SCSI จะเป็นการเชื่อมต่อไปยัง Disk Storage ซึ่ง Interface ของการเชื่อมต่อก็คือ IDE หรือ SATA  ดังนั้น ISCSI จึงถือว่าเป็น Interface ชนิดหนึ่งนั่นเอง


การสำรวจความต้องการของเราก่อนการติดตั้งระบบ Diskless

อันดับแรกควรสำรวจความจำเป็นของตัวเราเองก่อนเป็นอันดับแรกว่าสมควรและ เหมาะสมกับการติดตั้งระบบ Diskless หรือไม่ โดยปัจจัยในการตัดสินใจมีดังนี้

• เพื่อต้องการประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อ เพราะระบบ Diskless ไม่จำเป็นต้องใช้ Harddisk ที่เครื่อง Client แต่อย่างใด ทำให้สามารถประหยัดงบในการจัดซื้ัอ Harddisk ได้เป็นอย่างมาก
• ต้องการลดความยุ่งยากในการจัดการข้อมูล เพราะเครื่อง Client จะใช้ข้อมูลตัวเดียวกัน ซึ่งเก็บไว้ที่ Server ข้อมูลจึงเหมือนกันทั้งหมด และเมื่อจะต้องมีการแก้ไขข้อมูล ก็เพียงแค่แก้ไขที่ไฟล์ต้นฉบับไฟล์เดียวเท่านั้น และสามารถสำรองข้อมูลเก็บไว้ได้อีกด้วย
• ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่อง เพราะคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่มี Harddisk เมื่อใช้ไปสักระยะอาจจะมีปัญหาจุกจิกตามมาเข่น ติดไวรัส harddisk เสีย,พัง,ชำรุด ทำให้ต้องเปลี่ยน Harddisk ติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่ และใช้เวลานาน

• เครื่อง Server เพื่อการทำงานของระบบที่สมบูรณ์จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี Server ที่ใช้จัดการ ซึ่งในการเลือกเครื่อง Server มาใช้งานนั้น ขึ้นอยู่กับเครื่อง Client หรือเครื่องลูกข่ายของเรานั่นเอง ว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด ถ้ามีมากต้องพิจารณาต่อไปว่าควรจำเพิ่มหรือลดอะไร เพื่อให้การทำงานรับ - ส่งข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด
• อุปกรณ์ Network เนื่องจากระบบ Diskless ใช้การรับ - ส่งข้อมูลผ่านระบบ Network จึงสำคัญมากที่จะใช้อุปกรณ์มี่มีการรับส่ง - ข้อมูล อยู่ในระดับ Gigabit 100/1000 แต่เนื่องจากอุปกรณ์มีราคาที่ค่อนข้างสูงพอสมควร เพราะฉะนั้นการพิจารณาเพื่อใช้ระดับ Megabit 10/100 ที่มีราคาไม่สูงมากนัก ก็ควรดูจากเครื่อง Client ของเราอีกเช่นกัน เพราะถ้าเครื่อง Client มาก การรับส่งข้อมูลก็มากตามเช่นกัน
• การเตรียม Image ไฟล์ ที่ใช้เป็นต้นฉบับในการทำงานของเครื่อง Client
• ซอฟแวร์จัดการระบบ Diskless ในปัจจุบันมีโปรแกรมให้เลือกอยู่มากมาย ที่นำมาใช้เพื่อจัดการระบบ Diskless ตัวอย่างเช่น Richtech, SVIA, VXPDisk และอื่นๆอีกมากมาย

• ประหยัดค่าใช้จ่าย (ค่า Harddisk ของเครื่อง Client)
• ประหยัดไฟ เนื่องจากเครื่อง Client ใช้ไฟเลี้ยงน้อยลง (ไม่ต้องจ่ายไฟเพื่อ Harddisk)
• สะดวกในการจัดการกับข้อมูล แค่แก้ไขไฟล์ต้นฉบับแค่ไฟล์เดียวก็เรียบร้อย
• สามารถกู้คืนข้อมูลได้ เพราะเครื่องลูกจะไม่สามารถแก้ไขไฟล์ต้นฉบับได้ ถ้าไม่ได้รับสิทธิ

• เมื่อมีการรับ - ส่งข้อมูลมากๆ อาจทำให้ระบบทำงานช้าได้ (ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ Network)
• เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่ Server จึงอาจะเกิดปัญหาได้เมื่อ Harddisk ที่ Server เสียหาย แต่แก้ไขได้ด้วยการทำ Raid ไว้เพื่อสำรองข้อมูล Harddisk ที่สำคัญ